นายก อบจ.นครสวรรค์ ร่วมประชุมหารือการพัฒนาหลักสูตรที่เชื่อมโยงกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF)
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ที่ห้องประชุมบัวหลวง อบจ.นครสวรรค์ พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ.นครสวรรค์ พร้อมด้วย ดร.อร่าม วัฒนะ ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ประชุมร่วมกับ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษา ผู้อำนวยการการสำนักกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, จังหวัดนครสวรรค์, สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนในจังหวัดนครสวรรค์ และผู้ทรงคุณวุฒิ ประชุมหารือการพัฒนาหลักสูตรที่เชื่อมโยงการศึกษาในระบบกับการศึกษานอกระบบ ด้วยการพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ
NQF: Nation Qualification Framework หรือ กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ โดยสำนักงานเลขาธิการสถาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ คือ การพัฒนาหลักสูตรที่เชื่อมโยงกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้หน่วยงานที่จัดการศึกษา และหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ได้เข้ามาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ เพื่อให้หลักสูตรมีความพร้อมในการที่เราจะเชื่อมโยงหลักสูตรระยะสั้นทั้งการศึกษาในระบบและนอกระบบ รวมถึงแนวทางการพัฒนากำลังคน และแนวคิดที่จะพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติของจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งจะทำให้ครูผู้สอนมีความรู้ ความเข้าใจในสาขาวิชาที่สอน สามารถที่จะออกแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสม พัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะตรงตามความต้องการของสถานประกอบการ เมื่อเรียนจบแล้วออกไปทำงานสามารถที่จะปฏิบัติงานได้จริง
ในที่ประชุมดังกล่าว พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ.นครสวรรค์ ได้กล่าวโดยสรุปว่า "ผมเห็นด้วยอย่างมากกับการขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF: Nation Qualification Framework) ไปสู่การปฏิบัติ ปรับหลักสูตรด้านอาชีวศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานที่แท้จริง รวมทั้งเป็นฐานในการกำหนดอัตราค่าจ้าง เพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาและการพัฒนากำลังคนของประเทศ ผมยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติกับแรงงานนอกระบบในจังหวัดนครสวรรค์ ที่จะมีกลยุทธ์อะไร ในการนำแรงงานนอกระบบเหล่านั้นมาเข้าสู่กรอบวุฒิแห่งชาติ ซึ่งในประชุมวันนี้เห็นพ้องว่าให้ทำ Action Plan ในการขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ แล้วมาปรึกษาหารือไปสู่การปฏิบัติโดยละเอียดต่อไป เพราะ NQF มีข้อดีคือ
ใช้ระบบคุณวุฒิเป็นสำคัญในการประเมินศักยภาพการเรียนรู้ของคน เชื่อมโยงคุณวุฒิกับการเทียบโอนประสบการณ์ ซึ่งแนวคิดนี้จะต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างการศึกษาในระดับต่างๆ ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งยังเป็นการเพิ่มผลผลิตและทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย"
ทางด้าน ดร.อร่าม วัฒนะ ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ฝากที่ประชุมเรื่อง "ธนาคารหน่วยกิตกลาง" ซึ่งที่ประชุมก็รับไปดำเนินการทำ Action Plan ต่อไป
ภาพ/ข้อมูล : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ICTC
#NakhonsawanPAO #NSNPAO