ลุยดูคลองบรรพต 6 จุด

23 ก.พ. 2564, 11:14 น.
543
ลุยดูคลองบรรพต 6 จุด

นายก อบจ.ยกทีมลุย อ. บรรพตพิสัย 6 จุด ดูคลองส่งน้ำ ประตูน้ำ สั่งลอกด่วน พร้อมปรับระดับรับน้ำปิง ผันยาวหลายตำบล หลายอำเภอ

เมื่อเวลา 13:00 น วันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ.นครสวรรค์ พร้อมด้วย พลตำรวจตรีวิฑูรย์ คลังพลอย ที่ปรึกษานายก อบจ. นางสุดฤทัย เศรษฐนันท์ รองนายก อบจ. นายวสันต์ เสียงเรืองแสง เลขานุการสภา อบจ. นายลัทธพล ม่วงจีบ สมาชิกสภา อบจ.เขตอำเภอบรรพตพิสัย นายนิมิต ยืนยง ผู้อำนวยการกองช่างอบจ.และคณะ เดินทางเข้าพื้นที่อำเภอบรรพตพิสัยเพื่อตรวจสอบดู ประตูน้ำคลองส่งน้ำและแหล่งน้ำทั้งหมด 6 จุดด้วยกัน 

ในจุดที่ 1 คณะของนายก อบจ.เดินทางไปที่ประตูน้ำวัดโบสถ์ ตำบลบางแก้ว ที่ประตูน้ำแห่งนี้มีประตูน้ำ 2 ประตู เป็นประตูน้ำขนาดใหญ่และขนาดเล็ก สำหรับประตูน้ำขนาดเล็ก น้ำจากแม่น้ำปิงยังสามารถไหลเข้าคลองส่งน้ำได้ แต่ปริมาณน้ำไม่มากเพียงพอที่จะใช้ทำการเกษตร ส่วนประตูน้ำใหญ่เป็นประตูที่มีความสูงเกินระดับน้ำจากแม่น้ำปิง ทำให้น้ำไม่สามารถไหลผ่านประตูน้ำได้ ในด้านการแก้ไขปัญหาพลตำรวจเอกสมศักดิ์ ได้มอบหมายให้นายนิมิต ยืนยง ผู้อำนวยการกองช่างและคณะช่างอบจ. ทำการสำรวจออกแบบเพื่อปรับลดระดับของประตูน้ำประตูใหญ่ เพื่อให้ระดับของประตูน้ำต่ำกว่าระดับน้ำจากแม่น้ำปิง น้ำจะได้สามารถไหลเข้าคลองส่งน้ำได้ ในส่วนของคลองที่ตื้นเขินและรก นายก อบจ. มอบหมายให้นายรัฐพล ม่วงจีบ ประสานงานนำเครื่องมือกลของ อบจ.ที่มาตั้งฮับที่ตำบลหนองตางู เข้ามาเพื่อขุดลอกคลองให้กว้างให้ลึกและน้ำไหลเข้าได้มากขึ้น และสามารถที่จะส่งน้ำต่อจากตำบลบางแก้วไปยังตำบลบ้านแดนและตำบลอื่นใกล้เคียงเพื่อใช้ทำการเกษตรได้

จุดที่ 2 คณะของนายก อบจ. เดินทางไปที่โครงการชลประทานขนาดกลางฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง        หัวงานที่ 4 ตำบลบางแก้ว ซึ่งดำเนินการก่อสร้างโดยกรมชลประทาน ที่ฝายดังกล่าวมีการนำหินมาเรียงซ้อนกันเพื่อกั้นแม่น้ำปิง เพื่อยกระดับน้ำให้สูงขึ้น แต่ระดับน้ำก็ยังไม่สูงมากเพียงพอที่จะไหลเข้าไปยังประตูน้ำวัดโบสถ์ ที่ตำบลบางแก้ว ในส่วนตรงนี้นั้น ทาง อบจ.ไม่สามารถดำเนินการ เพราะฝายชั่วคราวกั้นน้ำแม่น้ำปิงได้เพราะเป็นโครงการของกรมชลประทาน 

จุดที่ 3 คณะของพลตำรวจเอกสมศักดิ์ ได้เดินทางไปดูฝ่ายแก้มลิงบ้านดอนยาว หมู่ 6 ตำบลบางแก้ว ซึ่งเป็นโครงการขุดลอกแก้มลิงพร้อมอาคารประกอบ เป็นโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 36 ล้านบาท ทำการขุดลอกแก้มลิงยกคันดินรอบแก้มลิง ตัวโครงการมีความยาว 3 กิโลเมตร พื้นที่รวมทั้งสิ้น 80 ไร่ สามารถรับน้ำได้ความจุกว่า 500,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งแก้มลิงนี้จะรับน้ำจากคลองกระดาน จากบึงหล่ม เขตอำเภอลาดยาว และรับน้ำที่หลากมาในฤดูฝน แต่สภาพของคลองส่งน้ำที่จะนำน้ำเข้าสู่โครงการแก้มลิงนี้ยังรกและมีขนาดเล็ก ชาวบ้านจึงขอให้ทาง อบจ. ช่วยขุดลอกคลอง เพื่อให้สามารถรับน้ำได้อย่างเต็มที่ ซึ่ง คลองส่งน้ำ ส่วนหนึ่งจะอยู่ในตำบลบางแก้ว ตำบลบ้านแดน อำเภอบรรพตพิสัย และตำบลหนองกระโดน อำเภอเมืองนครสวรรค์ หากโครงการแก้มลิงดังกล่าวรับน้ำเข้ามาอย่างเต็มที่ ก็จะมีปริมาณน้ำมากเพียงพอที่จะให้ชาวบ้านหลายตำบลได้ใช้ทำการเกษตร อุปโภค บริโภค และส่วนหนึ่งในฤดูแล้งก็จะสามารถผันน้ำออกไปช่วยประชาชนที่ตำบลบางแก้ว ตำบลบ้านแดน และตำบลหนองกระโดนได้ 

จุดที่ 4 พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นำคณะไปดูคลองตั้วเกา ตำบลท่างิ้ว ซึ่งคลองตั้วเกาเป็นคลองที่มีความยาวมาก สามารถส่งน้ำไปถึงตำบลท่างิ้ว ตำบลอ่างทอง ตำบลหูกวาง และตำบลหนองกระโดน แล้วน้ำก็จะไหลไปตามคลองท่าขนมจีน คลองวังไผ่ไปถึงตำบลนากลาง อำเภอโกรกพระ แต่ปัจจุบันคลองอยู่สภาพรก ตื้นเขินและน้ำจากแม่น้ำปิงมีระดับต่ำกว่าปากคลองตั้วเกา เมื่อไปถึงปากคลองตั้วเกาพบว่ามีชาวบ้านนำเครื่องรถไถเดินตามจำนวนกว่า 10 เครื่องมาตั้งสูบน้ำจากแม่น้ำปิง เพื่อส่งเข้าคลองตั้วเกา ในการแก้ไขปัญหา นายก อบจ. ได้มอบหมายให้นายนิมิต ยืนยง และคณะช่างอบจ ทำการสำรวจเพื่อปรับระดับคลองให้กว้าง ลึกมากขึ้น และให้นายลัทธพล ม่วงจีบ นำเครื่องมือกล ที่ฮับของ อบจ.ที่ตำบลหนองตางู มาทำการขุดลอกคลอง โดยที่คลองตั้วเกานี้ มีนายอมรินทร์ พิลึก นายกอบต.อ่างทองนายทินกร เกรียงยะกุล นายกอบต.ท่างิ้วและนางนิตยา เพ็ชรตะกั่ว กำนันตำบลท่างิ้ว ร่วมกันบรรยายถึงสภาพของระดับน้ำ ซึ่งทุก อบต.พร้อมที่จะให้การสนับสนุนงบประมาณในเรื่องค่าน้ำมันที่จะดำเนินการขุดลอกคลองและปรับระดับคลอง ส่วนเครื่องมือเครื่องจักรกลให้ใช้ของอบจ.นครสวรรค์ 

จุดที่ 5 พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ พร้อมคณะได้เดินทางไปที่ บึงหูกวางหรือบึงบอน หมู่ 3 ตำบลท่างิ้ว บึงหูกวางมีพื้นที่รวมทั้งหมด 389 ไร่และมีการขุดเป็นสระไว้กักเก็บน้ำถึง 3 สระ แต่สภาพสระในปัจจุบัน ไม่มีน้ำเลย เกิดความแห้งแล้งและมีต้นไม้เต็มสระไปหมด พลตำรวจเอกสมศักดิ์ ให้คณะผู้ติดตามนำโดรนขึ้นบินเก็บภาพทางอากาศ เพื่อดูภาพของสระน้ำทั้ง 3 แห่ง และเตรียมการที่จะปรับสภาพ ทำการขุดลอก และหาทางน้ำ เพื่อนำน้ำเข้ามาเก็บไว้ที่บึงหูกวางดังกล่าว หากมีน้ำเต็มปริมาณทั้ง 3 สระประชาชนตำบลท่างิ้ว ตำบลหูกวาง ก็จะสามารถใช้น้ำทำการเกษตรได้ 

จุดที่ 6 คณะของพลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ เดินทางไปที่คลองไทร หมู่ 2 ตำบลหูกวาง พบว่าสภาพคลองมีความกว้างใหญ่ มีน้ำอุดมสมบูรณ์ดี แต่ในในคลองมีวัชพืชจำนวนมาก จึงทำให้ประตูน้ำ ท่อน้ำของคลองไทรเกิดการอุดตัน คลองสายนี้เป็นคลองที่แยกมาจากคลองกระท้อน มีความยาวเชื่อมต่อไปยัง หมู่ 3 ตำบลหูกวาง ระยะทาง 5 กิโลเมตร โดยนายพิษณุ สิโรทศ รองนายกอบต.หูกวาง ร้องขอเครื่องจักรกล เพื่อแก้ไขปัญหาท่อตันและปริมาณจำนวนวัชพืชที่ต้องนำออกจากคลอง พลตำรวจเอกสมศักดิ์ให้ทาง อบต.ประสานงานกับ นายลัทธพล ม่วงจีบ ซึ่งทางอบต. พร้อมที่จะให้การสนับสนุนในเรื่องของค่าน้ำมันเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว